ฟักทอง

ถิ่นกำเนิดฟักทอง

ฟักทองมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา โดยพบหลักฐานว่ามีการปลูกฟักทองในอเมริกากลางและอเมริกาเหนือมานานกว่า 8,000 ปีแล้ว โดยหลักฐานที่พบได้แก่ เมล็ดฟักทอง รูปภาพฟักทอง และภาชนะที่ทำจากฟักทอง ฟักทองถูกนำเข้ามาปลูกในทวีปยุโรปโดยชาวสเปนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 จากนั้นจึงแพร่กระจายไปทั่วโลก ในปัจจุบันฟักทองเป็นพืชผักที่นิยมปลูกและบริโภคกันอย่างแพร่หลายในทุกภูมิภาคของโลก

ลักษณะฟักทอง

ฟักทอง
  • ลำต้น เป็นไม้เถาเลื้อย มีขนอ่อนปกคลุม ลำต้นมีลักษณะกลมหรือเป็นเหลี่ยมมน ผิวเป็นร่องตามความยาว มีหนวดสำหรับยึดเกาะ
  • ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน โคนใบเว้าคล้ายรูปหัวใจ ขอบใบหยักเป็นเหลี่ยม 5 เหลี่ยม มีขนทั้ง 2 ด้าน
  • ดอก เป็นดอกเดี่ยว สีเหลืองมีขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายระฆังหรือกระดิ่ง ออกบริเวณง่ามใบ
  • ผล เป็นผลเดี่ยว มีลักษณะเป็นพูเล็ก ๆ โดยรอบ เปลือกนอกขรุขระและแข็ง มีสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนและ สีเหลืองเข้ม และสีเหลืองตามลำดับ เนื้อภายในมีสีเหลือง มีเส้นใยอยู่ภายในเป็นสีเหลืองนิ่มพร้อมกับเมล็ดสีขาวแบนๆ ติดอยู่

ประโยชน์ของฟักทอง

ฟักทอง

บำรุงสายตา ฟักทองมีวิตามินเอสูง ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็นในที่มืดและป้องกันโรคตาบอดกลางคืน ต้านอนุมูลอิสระ ฟักทองมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบำรุงผิวพรรณ ฟักทองมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ฟักทองมีวิตามินบีสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายควบคุมน้ำหนัก ฟักทองมีกากใยอาหารสูง ช่วยทำให้อิ่มเร็วและนาน จึงเหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

การปลูกฟักทอง

ฟักทอง

ฟักทองเป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี การเตรียมดินจึงควรไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 25-30 เซนติเมตร และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วลงไปในดินเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินฟักทองเป็นพืชที่ต้องการน้ำและปุ๋ยมาก ในช่วงที่ต้นฟักทองกำลังเจริญเติบโต ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ดินแห้ง การให้ปุ๋ยควรให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง และควรให้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-8-8 หรือ 15-15-15 เดือนละครั้งฟักทองเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็ว จึงควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้วัชพืชแย่งอาหารและน้ำจากฟักทอง

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : veggiesgreen