ผักบุ้งและคุณประโยชน์
เป็นพืชที่อยู่ในวงค์ผักบุ้ง จะพบเห็นได้ทั่วไปแต่จะพบในฤดูร้อนมากกว่า และเป็นผักท้องถิ่นที่คนทั่วไปรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นคน ไทย เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย และ กานา ก็นิยมรับประทานเป็นอาหารแต่ส่วนมากคนไทยจะชอบนำมารับประทานจะมี3สายพันธุ์ คือ ผักบุ้งไทย ผักบุ้งนา ผักบุ้งจีน โดยผักบุ้งไทยมักปลูกในน้ำเพราะเจริญเติบโตได้ดีกว่าบนบก ส่วนผักบุ้งจีนจะปลูกในดินเพราะต้องการธาตุอาหารจากในดินมากกว่า และเป็นผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางสารอาหาร อุดรไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ โปรตีน เส้นใยอาหารแคโรทีน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งล้วนประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากรับประทานเป็นอาหาร ผู้คนยังนิยมผักบุ้งมาใช้เป็นยาขับลม และบรรเทาอาหารอักเสบ ลดไข้ แก้โรดีซ่าน รักษาหลอดลมอักเสบรวมถึงโรคเกี่ยวกับตับและน้ำดี เพราะสรรพคุณทางยาของผักบุ้ง
![ผักบุ้ง](https://veggiesgreen.com/wp-content/uploads/2023/08/ผักบุ้งจีน.jpg)
สายพันธุ์และประโยชน์ของผักบุ้ง
สายพันธุ์ผักบุ้ง
- ผักบุ้งจีนจะขึ้นบนบก มีลักษณะลำต้นและใบสีเขียวอ่อน ยางน้อยกว่าผักบุ้งไทย
- เป็นผักบุ้งที่นิยมปลูก– -ผักบุ้งไทยหรือผักบุ้งน้ำ เป็นผักบุ้งที่ขึ้นอยู่ในน้ำ
- ผักบุ้งนา ลำต้นจะมีสีแดง ยอดเรียวเล็ก
ประโยชน์ของผักบุ้ง
ผักบุ้งนำมาใช้ในการประกอบอาหารได้หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็ด ผัด แกง ดอง เช่น ผัดผักบุ้งไฟแดง ส้มตำ แกงส้ม แกงเทโพ ยำผักบุ้งกรอบ และยังเป็นอาหารให้แก่สัตว์ได้หมือนกัน ไก่ เป็ด ปลา เต่า และยังเอามาแปรรูปเป้นผลิตภัณฑต่างได้ๆ เช่น ผักบุ้งแคปซูล ผงผักบุ้ง
![ผักบุ้ง](https://veggiesgreen.com/wp-content/uploads/2023/08/ผักบุ้งจีน.png)
สรรพคุณของผักบุ้ง
1.ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
2.มีส่วนช่วนในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วนในการชะลอวัย ความแก่ชรา และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
3.ป้องกันการเกิดหรือลดอัตราการเกิดของโรคมะเร้งได้
4.ช่วยบำรงสายตา รักษาอาการตาต้อ ตาฝ้าฟาง ตาแดง สายตาสั่น หรืออาการต่างที่เกี่ยวกับระบบทางตาได้
5.ต้นสดของผักบุ้งนั้นใช้เป็นยาดับร้อนได้ แก้อาการร้อนใน
6.ต้นสดของผักบุ้งในเป็นบำรุงโลหิต
7.ช่วยเสริมสร้างศักยภาพในด้านความจำและการเรียนรู้ให้ดีขึ้น
8.ยอดผักบุ้นช่วยแก้โรคประสาท
9.แก้อาการเหงื่อออกมาก
10.มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
กินผักบุ้งให้ได้ประโยชน์และปลอดภัย
ประโยชน์บางประการของผักบุ้งไม่เพียงมีการกล่าวอ้างในตำรับยาสมุนไพร แต่ยังได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์จากงานวิจัยต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าผักบุ้งมีสารปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสารตะกั่ว แคดเมียม และปรอท โดยเฉพาะสารปรอทที่อันตรายต่อสตรีมีครรภ์และทารกในครรภ์เป็นอย่างมาก อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาความคิด สติปัญญา ความจำ ทักษะการใช้ภาษา การเคลื่อนไหวอวัยวะ และการมองเห็น นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ที่ได้รับสารปรอทอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร ภูมิคุ้มกันร่างกาย ปอด ไต หรือเสียชีวิตได้อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคผักบุ้งโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นแหล่งสารอาหารอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เพียงเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยและความสะอาด รวมทั้งนำไปปรุงอาหารอย่างถูกสุขอนามัย และอาจใช้วิธีต้ม ต้มให้เปื่อยในหม้ออัดแรงดัน หรืออบในไมรโครเวฟ เพื่อคงคุณค่าทางอาหารไว้ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่าผักบุ้งที่ปรุงสุกด้วยกระบวนการดังกล่าวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น
คุณค่าทางโภชนาการของผักบุ้งนั้นมีดังนี้
- พลังงาน 19 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 3.14 กรัม
- เส้นใย 2.1 กรัม
- โปรตีน 2.6 กรัม
- วิตามินเอ 315 ไมโครกรัม 39%
- วิตามินบี 10.03 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 20.9 มิลลิกรัม 8%
- วิตามินบี 3 0.9 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี 5 0.141 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 6 0.096 มิลลิกรัม 7%
- วิตามินบี 9 57 ไมโครกรัม 14%
- วิตามินซี 55 มิลลิกรัม 66%
- ธาตุแคลเซียม 77 มิลลิกรัม 8%
- ธาตุเหล็ก 1.67 มิลลิ
วิธีปลูกผักบุ้งให้ได้ผลเร็วและลำต้นสว
การเตรียมอุปกรณ์ในการปลูก
- กาบมะพร้าวสับ
- เมล็ดผักบุ้ง
- ดินและฟางสำหรับคุมหน้าดิน
- นำเมล็ดผักบุ้งแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นก็ห่อด้วยผ้าต่ออีก 2 คืน และต้องให้ผ้าชื้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการเร่งให้งอกเร็วขึ้น
- จากนั้นรากขาวๆ ของผักบุ้งก็จะงอกออกมา
- เมล็ดผักบุ้งงอกรากแล้วนำลงไปปลุกในดินหลุมเมล็ด โดยวิธีการเอาเมล็ดลงดินนั้น จะต้องเอานิ้วกดลงไป
- ปิดปากรุดแล้วรดน้ำ ถแล้วใช้ฟางมาคลุมหน้าดินสักหน่อย กันหน้าดินแห้ง
- จากนั้นต้นผักบุ้งก็จะค่อยๆงอกออกมา
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม: veggiesgreen.com